บทนำ
“เจ้ากำลังทำผิดพลาดนะโฮดอร์”หญิงสาวในชุดคลุมเอ่ยอย่างสิ้นเรี่ยวแรงท่ามกลางเหล่าผู้ร่วมสู้อีก 11 คนที่นอนบาดเจ็บกระอักเลือดอยู่กับพื้นไม่ต่างกัน
“อย่ามาตัดสินข้า เร ข้าเบื่อเต็มทีแล้วที่จะต้องสร้างสรรพสิ่งขึ้นมาให้ทั่วทุกโลกได้ใช้ มันไม่สมควรจะได้ในสิ่งที่เราสร้างไปฟรีๆ มันสมควรจะทำงานเยี่ยงทาสเพื่อแลกกับสิ่งที่เราสร้างขึ้นสิ พวกเจ้าทุกคนน่าจะคิดได้นี่ ในเมื่อมีมนุษย์เกิดขึ้นมาแล้ว เราก็ควรจะควบคุมมันและได้เวลาพักของเราสักที”ชายร่างบางผิวขาวซีดยืนพูดอย่างโอหัง ในมือที่ถือวัตถุทรงกลมคล้ายวงแหวนซ้อนกันหลายชั้นยกขึ้นมาชูขึ้นเหนือศีรษะ
“ในเมื่อพวกเจ้ายังล้าหลังคิดจะประคบประหงมทุกสิ่งที่สร้างขึ้นต่อไป งั้นข้าก็ขอตัดขาดจากพวกเจ้าแล้วครองทุกสิ่งทุกอย่างนี้เพียงคนเดียวพอ เอาพลังทั้งหมดของพวกเจ้ามาให้ข้าแล้วสลายไปซะเถอะ”
สิ้นคำพูดวัตถุทรงกลมในมือก็เปล่งแสงวาบพุ่งไปยัง 12 ร่างที่นอนกองหมดสภาพอยู่ ร่างชายหญิงทั้ง 12 เกิดอาการบิดเร่าเจ็บปวดขึ้นมาทันทีพร้อมกับมีอักษรหลากหลายตัวถูกดึงดูดด้วยแสงนั้นผ่านลูกโลหะเข้าสู่ร่างชายผิวซีด
“อย่าทำอย่างนี้ เราเป็นพี่น้องกันนะโฮดอร์!!”
“พี่น้องเหรอ ข้าคิดว่าเจ้าเข้าใจข้าที่สุดแล้วนะอิกนอร์ เจ้าได้หน้าที่กำเนิดความว่างเปล่า ทุกที่ที่เจ้าไปล้วนแต่มีแต่ความเหงา แล้วทำไมเจ้าถึงไม่เข้าใจข้าว่าความหนาวเย็นกับรัตติกาลมันก็เหงาไม่ต่างกัน ข้าเบื่อแล้วกับหน้าที่นี้ พอกันที จากนี้ข้าจะสร้างทุกอย่างที่ข้าต้องการ ทำลายทุกอย่างที่มาขัดขวาง และเจ้าก็ไม่ใช่พี่น้องข้าอีกแล้ว”
วัตถุทรงกลมในมือเปล่งแสงดูดพลังจนร่างทั้ง 12 ทรุดลงนอนหมดกำลัง ในไม่ช้ามันก็ดูดเอาพลังทั้งหมดมาได้ โฮดอร์ยิ้มเยาะให้กับผู้ที่เคยเรียกว่าพี่น้อง ผู้ที่ร่วมสร้างโลกต่างๆขึ้นมาด้วยพลังอักษรที่ในตอนนี้ร่างกำลังค่อยสลายไปด้วยเพราะสิ้นพลังอักษร แต่จู่ๆชายผิวซีดก็รู้สึกได้ถึงความร้อนรุ่มในอกที่มันค่อยๆแผดเผาให้ต้องทรมานเกินจะต้านได้
“อึก!! น-นี่ข้า...บ้าน่ะ ในตอนนี้ร่างข้าพร้อมรับพลังอักษรที่สุดแล้วนะ ทำไมมันถึงยังไงเพียงพอ...อึก...”โอดอร์ทรุดตัวลงคุกเข่า ร่างกายหลอมเหลวตัวเองกลายเป็นน้ำสีเนื้อซีดๆทิ้งไว้เพียงร่างกายที่กลายเป็นงูสีดำสนิทจากผลของร่างที่ควบคุมพลังเวทย์ไม่ได้จนย้อนกลับมาทำลายตัวเอง
เร หญิงสาวผู้นำกลุ่มเมื่อเห็นว่าชายผู้ปองร้ายตนกับพวกกลายร่างเป็นงูและกำลังจะเลื้อยหนีจึงใช้ความพยายามเฮือกสุดท้ายคว้าจับร่างงูมันเลื่อมเอาไว้ แต่ด้วยความปราดเปรียวของมันจึงสามารถหลุดพ้นมาได้อย่างเฉียดฉิว ถึงกระนั้นเทพีสาวผู้ให้กำเนิดแสงและความอบอุ่นก็ยังคงไม่ยอมลดละโดยง่าย
“พี่น้องข้า ในเมื่อเราหยุดโฮดอร์ไม่ได้ อย่างน้อยก็อย่าให้โฮดอร์มีอำนาจกว่านี้เลยเถอะ”
“เจ้าจะใช้มันจริงๆเหรอ”ไอร่า เทพีผู้ให้กำเนิดชีวิตในพื้นน้ำเอ่ยถามราวกับอ่านใจพี่ใหญ่แห่งเหล่าจอมเวทย์อักษรได้
“ใช่ ร่วมมือกับข้า ชิงตัวตนโฮดอร์มาก่อนที่เราจะไม่มีโอกาสได้ทำเถอะ”
คำพูดปลุกใจบวกกับความแค้นทำให้ทั้ง 12 ฝืนร่างชูมือไปยังผู้ทรยศที่กำลังเลื้อยหนีอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่
“ไม่ ไม่มีทาง พวกเจ้าไม่มีทางทำได้หรอก”
จู่ๆก็เกิดวงแหวนหลายชั้นเข้าห่อหุ้มร่างงูร้ายเอาไว้ก่อนที่มันจะหายวับไปในพริบตา
ทันทีที่ร่างอสรพิษร้ายหายไป ร่างทั้ง 12 ก็สลายกลายเป็นผุยผงไปในทันที
บทที่ 1
ในห้องนอนมืดๆมีเพียงแสง ไฟจากโคมตั้งโต๊ะส่องให้เห็นอะไรบางอย่างที่ลามกเกินกว่าจะให้ใครเห็นได้ ชายร่างผอมตัวสูงกำลังยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงาน มือซ้ายจับภาพถ่ายสาวสวยตัวเล็กผิวขาวทำท่าอ้าปากหวออย่างไร้เดียงสาในขณะที่อีกมือกำลังกำอาวุธร้ายขนาดใหญ่เท่าข้อแขนรูดขึ้นรูดลงอย่างเอาเป็นเอาตาย
“อูยยย ทั้งขาวทั้งอวบจริงๆให้ตายเถอะน้องมายด์!!!”ชายหนุ่มคำรามก้อง เอานิ้วไล้ริมฝีปากแดงอิ่มเรื่อยขึ้นไปยังใบหน้าขาวเนียนน่ารักจิ้มลิ้มก่อนจะรีบวางรูปลงบนโต๊ะแล้วคว้าขวดบรรจุน้ำสลัดเอาไว้เพียงครึ่งขวดมากดปลายบานแดงจ่อกับปากขวดแก้ว
พรวด!!! พรวด!!! พรวด!!! พรวด!!! พรวด!!!
ปริมาณของมันมากมายจนเติมอีกครึ่งของขวดให้เต็มได้ในพริบตา อีกทั้งยังข้นเหนียวเป็นสีเหลืองนวลและส่งกลิ่นคาวอบอวลจนเขาอดทำท่าปลื้มอย่างมากไม่ได้
“พี่อดทนมาสิบวันเต็มเพื่อมายด์เลยนะ เฮ้ออออ ได้ปล่อยทีโล่งเลย กินน้ำสลัดพี่ให้อร่อยนะครับน้องมายด์คนสวย”พูดไปชายหนุ่มก็หยิบเอารูปนั้นกลับมา เอาแท่งทวนที่ยังอ่อนตัวลงไม่มากนักค่อยๆกดหัวที่เปียกเหนียวไปด้วยน้ำเชื้อละเลงใบหน้าในรูปลงมาถึงทรวงอกอวบใหญ่ก่อนจะรีดเค้นเอาเมือกเหนียวหยดสุดท้ายให้หยดลงไปตรงกลางกระโปรงพลีทสั้นที่เป็นจุดสงวนของรูป
เขารู้ดีว่ามันออกจะโรคจิตกับสิ่งที่กำลังทำแต่มันไม่มีทางอื่นจริงๆที่จะแสดงความรักอันล้นอกนี้ออกมาในเมื่อน้องมายด์ไม่ใช่แฟนเขาและยังมีหนุ่มๆอีกมากมายมาตามจีบ ซึ่งเขาไม่ได้หวังอะไรกับมันมากนัก แค่ตอนนี้ที่ได้เป็นตากล้องส่วนตัวของดาวคณะสาวสวยคนนี้ก็ดีใจมากๆแล้ว
ใช่แล้ว เนเป็นได้แค่รุ่นพี่ที่แสนดีสำหรับน้องมายด์เท่านั้น เขาไม่มีอะไรเทียบกับนางฟ้าที่แสนจะน่ารักคนนั้นได้เลยสักนิด ทั้งฐานะทางบ้านที่มีพ่อแม่เป็นครูทั้งคู่ กว่าจะส่งเสียพาให้คนบ้านนอกอย่างเขามาเรียนมหาลัยในเมืองได้ก็เสียไปเยอะอยู่ นั่นทำให้เนค่อนข้างจะรักและเคารพท่านทั้งสองมาก
ช่วงแรกที่เขามาอยู่เมืองหลวงครั้งแรก เนปากกัดตีนถีบพอสมควรกับการทำงานพิเศษเก็บหอมรอมริบเอาเงินมาใช้กับงานอดิเรกที่ชอบคือถ่ายภาพ และเหมือนผู้ใหญ่จะเมตตา พี่กอล์ฟ รุ่นพี่ชมรมถ่ายภาพของเขาเป็นคนเสนอขายกล้องตัวเองให้ในราคาถูกๆเพื่อให้เนได้ทำมาหากินรวมทั้งยังช่วยฝึกถ่ายรูปให้ นั่นจึงทำให้เนสามารถเปลี่ยนจากงานอดิเรกมากลายเป็นอาชีพรับถ่ายรูปได้ในปีเดียว
จากนั้นเนจึงทั้งรับงานถ่ายภาพเพื่อฝึกฝีมือ ทั้งทำงานพิเศษจนสามารถเช่าห้องแถวโกโรโกโสได้คูหานึงเพื่อเอามาเป็นสตูดิโอถ่ายแบบ ในตอนนั้นเองที่น้องมายด์ได้เข้ามาในมหาลัยและทำให้เขาได้รู้จักกับคำว่ารักเป็นครั้งแรก
น้องมายด์ต่างจากเนโดยสิ้นเชิง มายด์คาบช้อนเงินช้อนทองมาตั้งแต่เกิด คุณพ่อเป็นนักธุรกิจใหญ่ ส่วนคุณแม่ก็เป็นนักธุรกิจแถวหน้าของวงการอสังหาริมทรัพย์เช่นเดียวกัน มายด์จึงถือได้ว่าเป็นคุณหนูเต็มตัว ผิวขาวเนียนบ่งบอกถึงการใช้เครื่องบำรุงราคาแพง หน้าอกหน้าใจที่ใหญ่โตดันชุดนักศึกษาออกมานั่นก็อีกที่ทำให้เหล่าหนุ่มๆไม่ว่าจะรวยหรือจนต่างหมายปองอยากขยำขยี้และดื่มด่ำกับมันให้สาสมในความใหญ่
และที่ดอกฟ้าได้มาเจอกับหมาวัดอย่างเขาคงเป็นเพราะความหน้าด้านของเนเองที่ไปขอให้เธอกับเพื่อนๆมาถ่ายรูปโปรโมตชมรม จนกระทั่งตอนนี้ผ่านมาปีนึงแล้วจึงทำให้ทั้งสองสนิทกันแบบแทบจะเรียกได้ว่ามายด์กับเพื่อนๆเป็นหนึ่งในชมรมถ่ายรูปเลยก็ว่าได้ และนั่นทำให้เขาได้เป็นตากล้องส่วนตัวของมายด์และกลุ่มเพื่อนสาวของเธอไปโดยปริยาย...แต่ก็ได้แค่นั้นจริงๆ เขาไม่มีปัญญาจะสารภาพรักกับรุ่นน้องคนนี้หรอก ถึงแม้จะสนิทสนมมากแค่ไหนก็ตาม
“...เฮ้อออ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะครับน้องมายด์ ฝันดีนะ”เขาพูดกับรูปถ่ายใบนั้นก่อนจะเก็บมันเข้าลิ้นชักทั้งยังเลอะเทอะก่อนจะเอนตัวลงนอนหมดเรี่ยวแรงลงบนเตียง ปล่อยให้แอร์เย็นฉ่ำกล่อมนอนหลับไป
.....................
นาฬิกาส่งเสียงให้เนตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ เขารีบตบปิดนาฬิกาบนหัวเตียง กระโดดแผลวคว้าผ้าขนหนูไปอาบน้ำแต่งตัวทันทีด้วยความเร่งรีบ
“สายแล้วๆๆๆ”เขาครางอย่างหัวเสีย หยิบกระเป๋าเป้สะพายบ่าพร้อมกับคว้าขวดแก้วที่บรรจุเนื้อครีมเหลืองข้นกลิ่นฉุนมาปิดฝาโดยไม่ลืมเขย่าให้มันผสมกับเครื่องเทศที่ก้นขวดซะก่อน
เนต้องเดินทางโดยรถเมล์ ทำให้เขาไม่สามารถสายได้มากนัก แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อออกมาจากห้องที่พักแล้วบังเอิญเจอกับหญิงสาวในชุดครูกำลังถือถุงผ้าใส่เอกสารมากมายของนักเรียนอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปช่วย
“พี่แต้วสวัสดีครับ มาๆพี่ ผมช่วยนะ”
“ขอบใจจ้ะ ตื่นสายเหรอวันนี้ รีบเชียว”
“ครับ แหะๆๆ แต่ก็ดีนะจะได้เจอพี่ไง”ชายหนุ่มเอ่ยทักทายเพื่อนบ้านติดกันอย่างสนิทสนม เดินกันไปคุยกันไปยังป้ายรถเมล์
แต้วเป็นข้าราชการครูสังกัดอยู่ในโรงเรียนประถม เธอตัวเล็ก สูงแค่ไหล่ของเนเท่านั้น อีกทั้งยังสวยน่ารัก หน้าหวานตากลมโตปากเรียวเป็นกระจับสวย เรียกได้ว่าเป็นคนสวยที่มีหุ่นชวนดึงดูผู้ชายให้มาจีบอย่างมาก แต่ด้วยความที่เนรู้ดีว่าเธอแต่งงานแล้ว แม้สามีจะทำงานอยู่ต่างประเทศ เดือนนึงได้กลับมาหาพี่แต้วแค่สิ้นเดือนเท่านั้นแต่เขาก็ไม่คิดจะเข้าไปแย่งของใคร พี่แต้วจึงเป็นเหมือนเพื่อนสนิทที่เอาไว้คุยปรึกษายามเหงาเท่านั้น
และด้วยความที่ทั้งสองวัยยังไล่เลี่ยกันอยู่จึงเป็นเรื่องง่ายที่พี่แต้วคนนี้จะสนิทกับเนอย่างมากถึงแม้ว่าจะรู้จักกันได้เพียงปีกว่าเท่านั้น
“ดีนะเจอเนไม่งั้นพี่คงแย่เลย”
“ฮ่ะๆๆ เรียกผมก็ได้พี่ ยังไงเราก็ไปทางเดียวกันอยู่แล้ว”เนเอ่ยผูกมิตร ด้วยความใจดีนี้เองที่ทำให้แต้วไว้ใจน้องชายคนนี้เอามากๆ
“เอางี้ ไว้พี่ซื้อรถเมื่อไหร่พี่จะขับไปส่งเนด้วยดีมั้ย จะได้ไม่เบียดเสียดกันบนรถเมล์ทุกเช้า”
“ไม่เป็นไรพี่ ยังไงพี่ก็ถึงก่อนผมอยู่แล้ว ผมว่าถ้าพี่ซื้อรถ ผมคงขึ้นรถเมล์เหมือนเดิมจะดีกว่า ยังไงก็สะดวกกับทั้งพี่ทั้งผมมากกว่าด้วย”
“เรานี่นะขี้เกรงใจไปได้...รถมาละ ขึ้นกันเถอะ”
เนเดินตามแต้วขึ้นรถเมล์ไปติดๆ และด้วยความที่ในตอนนี้สายแล้วจึงไม่แปลกที่บนรถจะมีคนแน่นขนัดมากมายอยู่บนนั้น เขาสังเกตุเห็นแต้วหันมองไปยังกลุ่มนักเลงที่เข้ายึดท้ายรถอย่างระแวดระวังอีกทั้งกลัวว่าพวกนั้นจะมาทำอะไรมิดีมิร้ายกับพี่สาวข้างบ้านคนนี้รึเปล่า เขาจึงเลือกจะเข้าประกบท้ายเธอเอาไว้ไม่ให้มีใครสามารถเข้ามาทำอะไรด้านหลังแต้วได้
“ผมอยู่นี่นะพี่”เขาก้มกระซิบบอกเธอให้รู้และสังเกตได้ว่าแต้วค่อยคลายอาการเกร็งลงบ้าง
“ขอบใจนะเน”
“ไม่เป็นไรพี่ พี่สาวผมทั้งคนไม่ปกป้องได้ไง”เขากระซิบตอบ
แต้วหันมาชายตายิ้มไม่ได้พูดอะไร แต่แล้วจู่ๆกระเป๋ารถเมล์ก็เบียดคนเข้ามาเก็บเงินจากทั้งสองจนผู้โดยสารคนอื่นเบียดครูสาวจนก้นงอนงามภายในกระโปรงกระสอบสีกากีเข้าเบียดเป้าเนอย่างจัง
“ใครขึ้นก่อนชิดในด้วยพี่ ขึ้นมาแล้วยื่นเงินมาด้วยค่ะ”กระเป๋ารถเมล์เขย่ากระบอกเก็บเงินเสียงดังให้ทั้งสองรู้ตัว
แต้วรู้ดีว่าในสถานการณ์อย่างนี้ที่เนโหนตัวอยู่กับราวเหล็ก ส่วนอีกมือถือกระเป๋าเอกสารอยู่มันออกจะลำบากเกินไปที่จะให้เขาควักเงินจ่าย เธอจึงหยิบเหรียญยื่นออกไปให้กระเป๋า
“สองคนค่ะ”
“ชิดๆหน่อยพี่ ขอทางหน่อยค่ะ”กระเป๋ารถเมล์รับเงินมาก่อนจะฉีกตั๋วยื่นให้แล้วเบียดตัวขอไปต่อ
แต้วถูกเบียดอีกครั้งให้ร่างเพรียวบางต้องถอยเข้าชิดกับร่างเด็กหนุ่ม ก้นงอนๆของเธอเบียดถูเข้ากับจุดยุทธศาสตร์ของเนจนท่อนลำในกางเกงเริ่มตื่นชูคอแข็งเบียดกลับ แต้วหน้าแดงซ่านกับความรู้สึกอันชัดเจนนี้แต่เมื่อจะขยับออกไปยืนอยู่ที่เดิมก็ถูกคนจากด้านหน้ามายืนแทนที่แล้ว
“พี่แต้วครับ เอ่อ...”เนทำท่ากระอักกระอ่วนใจ แม้จะอยากให้แท่งทวนในกางเกงหดตัวลงแค่ไหนแต่ด้วยสถานการณ์กับความเป็นชายอันเต็มเปี่ยมทำให้เขาควบคุมส่วนนั้นไม่ได้เลยสักนิด
“ไม่เป็นไรเน พี่เข้าใจ”เธอเอ่ยปลอบแต่ใจกลับเต้นแรงด้วยความสยิว แม้จะรู้ดีว่าชายข้างหลังเธอเป็นคนที่เธอมองเห็นว่าเป็นน้องมาตลอดแต่สิ่งที่มันกำลังเบียดก้นเธออยู่ในตอนนี้ทำให้เธอรู้สึกโหยหามันแปลกๆ
ด้วยความที่ไม่ได้อยู่กับสามีมันจึงทำให้แต้วมีอารมณ์เปลี่ยวเหงา รสรักที่ห่างหายมานานทำให้เธอมีอารมณ์กับท่อนเนื้ออันใหญ่ที่เข้ามาเบียดก้นอยู่จนรู้สึกได้ว่ากลีบสาวแฉะเยิ้ม คันยุบยิบไปทั่วภายใน แต้วพยายามเม้มขบริมฝีปากเรียกสติตัวเองกลับมาพลางผ่อนลมหายใจช้าๆระบายความต้องการให้ลดลง แต่แล้วจู่ๆรถเมล์ก็เบรกจนร่างของเนเข้ามาบดแนบอีกครั้ง
ความแนบชิดในครั้งนี้ทำเอาแต้วเกร็งไปทั้งตัวไม่ต่างจากเน นั่นเพราะเธอสัมผัสได้ถึงความใหญ่ยาวของมันได้อย่างชัดเจน ขนาดของมันทำเอาเธอต้องยืนหนีบขาด้วยความเสียว ความยาวของมันที่พาดก้นงอนๆขึ้นมาถึงเอวแทบจะทำให้เธอหยุดหายใจ แอบคิดไปว่าหากมันเข้ามาในตัวคงจะยาวทะลุเข้าไปถึงในมดลูกเธอแน่ๆ
“พี่แต้วโอเคมั้ยครับ”เนถามเมื่อเห็นว่าพี่สาวข้างห้องมีอาการเกร็ง ตัวแข็งทื่อ เขาถอนหายใจนิดๆเมื่อเห็นว่าเธอส่ายหัวตอบ แอบคิดอยู่ในใจว่าหากไม่ใช่คนรู้จักกันเขาคงจะเพลินกว่านี้แน่ แต่ในเมื่อเธอคือคนรู้จักที่เขาอยากถนอมความรู้สึกเอาไว้จึงได้แต่หาทางออกอื่นแทน “ผมไปยืนข้างๆพี่ดีกว่า”
“ไม่เป็นไรเน อยู่ตรงนั้นแหละ พี่ไม่ถือหรอก อุ๊ย!!”แต้วอุทานเบาๆกับแรงกระชากของรถในขณะจอดติดไฟแดง เธอเซมาซบแผ่นหลังกับหนุ่มนักศึกษาอีกครั้งแต่ในครั้งนี้เนรีบปล่อยมือจากราวจับมาโอบกอดเอวเธอไว้ไม่ให้ล้ม
แต้วถึงกับหน้าร้อนฉ่า รู้สึกได้เลยว่าร่างกายเธอตอบสนองต่อแท่งทวนตรงร่องก้นกับแรงกอดอย่างทะนุถนอมนั้นจนกลีบเนื้อนุ่มขับเมือกจำนวนหนึ่งออกมาให้กางเกงในลื่นแฉะไปหมด
“ระวังนะพี่”เนกระซิบ พยายามกัดริมฝีปากห้ามใจตัวเองเอาไว้ไม่ให้ขาดสติทำอะไรรุ่มร่ามกับพี่สาวคนนี้ไปแม้ใจจะอยากมากๆแล้วก็ตาม “พิงผมก็ได้นะพี่ พี่ไว้ใจผมได้นะ”
“น่าไว้ใจมั้ยเนี่ย”แต้วกระซิบยิ้มๆ รู้ว่าถึงเขาจะมีอารมณ์กับเธอแต่เขาก็ยังไม่คิดจะทำอะไรให้เธอต้องลำบากใจ ในตอนนี้แต้วจึงต้องกดความรู้สึกตัวเองเอาไว้แล้วเชื่อในความจริงใจของเนด้วยการเอนพิงเขา “เลิกจับเอวพี่ได้แล้ว เดี๋ยวไม่มีที่เกาะนะ”
“ครับ”เนเอ่ยเสียงแหบพร่า ก้มมองคนตัวเล็กกว่าด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไปนิดหน่อย ความคิดในหัวแว๊บขึ้นมาทันทีว่าหากเขาเป็นชู้กับพี่แต้วขึ้นมาจริงๆ ยังไงสามีพี่แต้วก็ไม่มีทางรู้ กว่าสามีจะกลับมา บางทีพี่แต้วอาจจะติดใจเขาจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วก็ได้
แต่นั่นก็เป็นเพียงความคิด เนยังไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงเลยสักคน เขากลัวมากจริงๆว่าถ้าทำอย่างที่คิดกับพี่แล้วแล้วแสดงความเงอะงะออกมา แทนที่พี่แต้วจะประทับใจ อาจจะเปลี่ยนเป็นหมดอารมณ์แล้วพาลไม่อยากเจอหน้าเขาอีกเลยก็ได้
รถเมล์ค่อยๆมาจอดป้ายอีกครั้ง แต้วหันมายิ้มแก้มแดงซ่านให้เขาแล้วยืนมือมารับของ
“ขอบคุณนะเน พี่ลงละ ไว้ตอบแทนให้นะที่ช่วย”
“สบายๆครับพี่ ไว้เจอกันครับ”เนยิ้มตอบ แอบลอบถอนหายใจเบาๆด้วยความโล่งอกที่วันนี้ผ่านไปได้ด้วยดีแม้อารมณ์เขาจะค้างอยู่ก็ตาม
สายมากแล้วเมื่อเนมาถึงมหาลัย เขารีบเร่งหาห้องเรียนพอดีกับเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาดังเตือนขึ้นมาอย่างรู้จังหวะ
ตรู๊ดดดดด ตรู๊ดดดดด ตรู๊ดดดดด
“ฮัลโหลว่าไงวะเคน”
“อยู่ไหนวะ อ.จ๋าเช็คชื่อแล้วนะ”
“หน้าห้อง”
“มึงรีบเข้ามาเลย จะถึงชื่อมึงละ”
เนรีบวางสายก่อนจะเปิดประตูเข้าห้องไปแล้วรีบขึ้นไปหาเพื่อนที่โต๊ะแถวหลังชั้นบนสุด
“เนตรมนตรี เย็นดำรงค์”
“ครับ”เนรีบขานรับ รู้สึกอายแทบแทรกแผ่นดินหนีที่ อาจารย์จ๋าเรียกก่อนที่เขาจะไปถึงที่นั่งและเร่งเดินไปหาเคนเข้าไปอีก
“ไม่ต้องรีบหรอกนักศึกษา เธอมาทันๆ”อาจารย์จ๋าแซว ทำเอาเพื่อนร่วมคลาสต่างฮาครืน
“ฮ่ะๆๆ เกือบสายแล้วนะมึง ดีนะที่จารย์แกใจดีน่ะ แล้วไปทำอะไรมาวะถึงมาสาย”
“กูตื่นสาย”เนตอบเพื่อนตามตรง หยิบเอาสมุดกับปากกามาเตรียมจดไม่ให้เป็นเป้าสายตาของคนในห้องอีก
“มึงนี่ก็นะ เลือกเวลาตื่นสายได้ดีจริงๆ รีบๆหาแฟนสักทีสิวะจะได้ปลุกมึงไม่ให้สายน่ะ”
“แฟนเฟินอะไรของมึง”
“น้องมายด์ที่มึงชอบไง ไม่จีบสักทีวะ กูอุตส่าห์ถอยให้มึงจีบเลยนะเว่ย”ไอ้เคนเอาศอกถองใส่เพื่อนอย่างรู้ทัน
“มึงถอยหรือไม่มีปัญญาจีบ เอาดีๆ”
“ปากดีนะมึงน่ะ เดี๋ยวกูก็จีบจริงๆซะหรอก”
“ทำพูดดี แล้วน้องเนยที่มึงจีบอยู่ล่ะ”เนถามเพื่อนถึงน้องเนย สาวแว่นสุดเฉิ่มที่มันประกาศเอาไว้ว่าจะชิงความบริสุทธิ์จากสาวแว่นขี้อายที่ไม่เคยเข้าใกล้ผู้ชายมาก่อนเลยสักคนให้ได้
“นอนกอดกูอยู่เมื่อคืน สอนกี่ท่านี่รับได้หมดทุกท่า เดี๋ยวกูสอนให้ไฟแลบก่อนแล้วค่อยปล่อยไป รับรองใครได้กินต่อจากกูนี่มีเสียสูญแน่”
“มึงมันขี้โม้”เนยังคงไม่ยอมเชื่อเพื่อนคนนี้นั่นเพราะมันขี้คุยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว คบกับมันมาตั้งแต่ปีหนึ่งก็ชอบคุยว่าได้คนโน้นคนนี้แล้วตลอดแต่ถึงอย่างนั้นมันก็รักเพื่อนมากจริงๆ และมีมันนี่แหละที่ชอบมาคุยเล่นกับเขา ต่างจากคนอื่นในคณะที่แทบจะทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน
“นักศึกษา ถ้าเข้ามาเรียนแล้วคุยน่ะ ออกไปได้นะคะ อาจารย์อนุญาติ”
เสียง อาจารย์จ๋าดุขึ้นทำเอาทั้งสองต่างเงียบกริบ แต่ถึงอย่างนั้นไอ้เคนก็ยังไม่วายกระซิบบอกเนยืนยันถึงสิ่งที่มันพูดอีก
“เดี๋ยวควงน้องเนยมาโชว์ ส่วนเรื่องน้อยมายด์ถ้าไม่รู้จะเริ่มไงก็มาปรึกษากูได้นะ”
หลังจากจบคาบเช้า ไอ้เคนก็โทรเรียกน้องเนยมากินข้าวด้วยจริงๆจนเนอดตกใจไม่ได้ น้องเนยที่เมื่อเดือนก่อนไอ้เคนประกาศว่าจะเอาความบริสุทธิ์มาให้ได้ ในตอนนี้สาวเฉิ่มคนนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว ทั้งการแต่งหน้า ทั้งแว่นตาที่เปลี่ยนมาใส่คอนแทคเลนส์แทน มันทำให้เนถึงกับตะลึงในความสวยและไม่คิดเลยว่าเนยคนนั้นจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
แน่ล่ะว่าไอ้เคนมีเงินมาก เรียกได้ว่าลูกคนรวยคนนึงเลยก็ได้แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะเอาเงินมาเปย์ใครแบบนี้ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยคิดจะอวดรวยกับคนที่มันจีบเลยสักคน แต่ถือว่าไอ้เคนตาคมมากๆเพราะเล่นหยิบเพชรในตมอย่างน้องเนยมาเจียรไนจนสวยใสได้ขนาดนี้
“ไงล่ะมึง อึ้งเลยดิ นี่แหละวิชาดีที่กูไปเรียนมา บอกแล้วว่าให้ออกไปเที่ยวกับกูจะได้มีประสบการณ์ชีวิตบ้างจะได้ไม่โสดกินแห้วอยู่อย่างนี้ไง”
“เรื่องของกูน่ะ ป่ะกินข้าวกัน”
“น้องเนยไปกินข้าวกันนะคะ มาๆพี่จูงมือหน่อย”ไอ้เคนได้ทีเอาใหญ่ จับมือน้องเนยของมันเย้ยเพื่อนสนิท ทำเอาเนตาร้อนขึ้นมานิดๆแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็มีแต้มต่ออยู่หน่อยนั่นคือเขาไม่ได้ต้องกินข้าวคนเดียวแล้วมองเพื่อนกับแฟนมันให้ช้ำใจแต่ได้กินข้าวกับเหล่านายฟ้าอย่างน้องมายด์และเพื่อนๆ
โรงอาหารในเวลาเที่ยงเต็มไปด้วยผู้คนมากมายนั่งกินข้าวกันอย่างแน่นขนัด เนเข้ามาถึงก็ชะเง้อคอมองหากลุ่มนางฟ้าอยู่พักหนึ่งก็เห็นมือเรียวขาวกับใบหน้าเปื้อนยิ้มกวักเรียก
“พี่เน พี่เคน ทางนี้ๆ”เด็กสาวตาโตโบกมือเรียกพร้อมเผยอยิ้มด้วยริมฝีปากบางเฉียบมาทางเขากับเพื่อน
“อ้าว!! มายด์ สั่งข้าวรึยัง”
“สั่งแล้วค่ะ แล้วนี่แฟนพี่เคนเหรอคะ”
“ฮ่ะๆๆ ใช่ครับ นี่เนยแฟนพี่เอง ว่าจะมาเปิดตัวให้พวกเราเห็นนั่นแหละ เดี๋ยวขอตัวไปสั่งข้าวก่อนนะ”
อาหารค่อยๆทำเสร็จและทยอยไปรับกันมาวางไว้บนโต๊ะส่งกลิ่นหอมไปทั่ว เราต่างคนต่างกินกันอย่างเอร็ดอร่อยกระทั่งมีคนเปิดประเด็นขึ้นมาบนโต๊ะอาหาร
“อืม พี่เนคะ เมื่อไหร่จะไปทริปถ่ายรูปกันอีกคะ คราวก่อนสนุกมากเลย วิวก็สวย มายด์อยากไปอีก”
“คงอีกสักพักเลยนะ เหรัญญิกเขาไม่อนุมัติจ่ายแล้วน่ะ เดี๋ยวจะกินงบชมรมมากเกินไป แต่ถือว่าคุ้มนะ ได้รูปโปรโมตชมรมสำหรับปีนี้กับรูปไว้ทำปฏิทินขายหารายได้เข้าชมรมสบายเลย ไว้คราวหน้าพี่พาพวกเราไปแน่ รับรอง”
“คุ้มสิ ให้คนเขายืนถ่ายโพสท่าตั้งนานสองนาน ตาก็จ้องจะทะลุเลนส์อยู่แล้ว ไม่รู้จะจ้องอะไรนักหนา”
สาวหมวยเสียงห้าวรวบผมหางม้าพูดขัดขึ้น เธอชื่อเหนิงเหนิง หรือที่เพื่อนๆชอบเรียกว่าเหนิง ใบหน้านิ่งเฉยไม่แสดงอารมณ์รวมทั้งนิสัยห้าวพร้อมบวกราวกับทอมทำให้ไม่มีใครกล้าปะทะด้วยแม้แต่เนที่สนิทกับกลุ่มนี้ยังต้องรู้สึกกระดากและไม่เคยกล้ายุ่งด้วยแม้แต่ครั้งเดียว
“อะไรวะเน มีอะไรสนุกๆแบบนี้ไม่เห็นชวนกูบ้างเลย...เนี่ยถ้าพี่ไปนะจะเพ่นกบาลมันให้จะได้ไม่กล้ามองน้องเหนิงแบบนั้นอีก โอ้ยยย หยอกๆน้าเนยยย”ไอ้เคนรีบออกตัวแต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อน้องเนยของมันหยิกเข้าให้ที่สีข้าง
“เอ่อ...เหนิงไม่ชอบใช่มั้ย งั้น...คราวหน้าเดี๋ยวพี่ให้ตากล้องผู้หญิงไปด้วยก็ได้นะ”
“โถ่พี่เน ยัยเหนิงมันก็เป็นแบบนี้แหละไม่ต้องคิดมากหรอกพี่ คนตื่นเต้นสุดที่ได้ไปทริปก็ยัย เหนิงนี่แหละ ถึงกับทิ้งพวกเรารีบกลับบ้านไปจัดกระเป๋าเลย ชุดว่ายน้ำที่ใส่ก็ทูพีช เปรี้ยวสุดเลยด้วย อย่างกับจะใส่ไปอวดใครอย่างนั้นแหละ”
น้องแพรวาสาวหน้าหวานแอบแซวกัดเพื่อนอย่างสนุกปากจนน้องเหนิงมองค้อนตาเขียวใส่ คนช่างแซวถึงกับยิ้มแหยๆให้เพื่อนผู้น่ากลัวแล้วหันมาเปลี่ยนเรื่องคุยกับเนต่อ
“...ถ้าพี่เนบอกอยากถ่ายแบบงั้นแพรวาจะมาเป็นแบบส่วนตัวให้ดีมั้ยคะพี่ แพรวาอยากถ่ายชุดว่ายน้ำอีกสักที หรือจะให้มายด์มาถ่ายคู่ด้วยก็ได้น้า...”
“แพร อยากโดนเตะป่ะ เงียบก็ไม่มีใครว่าเป็นใบ้นะ”เหนิงดุเพื่อนเสียงเขียว แต่คนถูกดุกลับยิ้มกรุ้มกริ่มมองเนสลับกับเหนิงไปมาอย่างรู้ทัน
“อย่าทะเลาะกันสิ ชุดทุกคนก็สวยหมดแหละ...แต่พี่เนคะคราวหน้าขอไปหลายๆวันหน่อยนะ ฝนอยากเที่ยวเยอะๆ”
เสียงออดอ้อนน่ารักจากสาวน้อยชื่อฝนดังประท้วง ใบหน้าหมวยตาหยีกับผมที่ยาวประบ่าดูราวกับเด็กน้อยวัยมัธยม แต่ด้วยความขาวอวบอิ่มน่ากินของเธอก็ทำให้เด็กน้อยคนนี้เป็นที่หมายปองของหนุ่มๆไม่แพ้มายด์เช่นกัน ถึงขนาดว่าบางทีเนยังเคยหยิบเอารูปน้องฝนมาช่วยตัวเองแทนหญิงสาวในดวงใจอย่างน้องมายด์เลยด้วยซ้ำ
“งั้นไว้ไปช่วงปิดเทอมนะ ถ้ายังไงพี่จะบอกกำหนดการณ์กับเหรัญญิกไว้ว่าจะเบิกเงินช่วงนั้น เราจะได้ไม่ขลุกขลัก”
“ไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกค่ะพี่เน พวกเราออกเงินกันเองก็ได้ ถือว่าไปเที่ยว พี่ก็แค่พาเราไปแล้วก็ถ่ายรูปให้เราก็พอ ยังไงพวกเราก็ชอบถ่ายรูปกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะได้ตากล้องฝีมือดีแถมน่ารักแบบพี่ด้วยเนี่ย ไปหาที่ไหนก็คงไม่เจอแล้วค่ะ”
“ฮ่ะๆๆ”
“โอย อิจฉาโว้ยยย รู้งี้เข้าไปทำกิจกรรมชมรมบ้างก็ดีจะได้ถ่ายรูปสวยๆ น้อง...เนยจะได้ชมพี่แบบนี้บ้าง”ไอ้เคนทำท่าจะจีบมายด์แต่ยังกลับลำทันมาชมแฟนไม่ให้ต้องเกิดเรื่อง
สำหรับกลุ่มอื่นการคุยเถียงกันอาจจะเป็นเรื่องไม่ค่อยดีนักแต่สำหรับกลุ่มนี้ถือเป็นเรื่องปกติในเมื่อสาวๆแต่ละคนต่างชอบกัดกันอย่างกับอะไรดี เว้นไว้เพียงน้องมายด์เท่านั้นที่ค่อยข้างจะวางตัวดี แต่ก็ยังพูดแซวเฮฮากับเพื่อนๆได้ เนจึงค่อนข้างจะแอบคิดเสมอว่าน้องมายด์ราวกับหัวหน้ากลุ่มนางฟ้ายังไงอย่างนั้น
เมื่อเวลาอาหารเที่ยงหมดลงเคนก็ขอตัวแยกย้ายไปส่งน้องเนยเรียนต่อในขณะที่สาวๆต่างก็ยังนั่งเล่นกันอยู่เพราะพวกเธอมีเรียนอีกทีเกือบบ่ายสาม ส่วนเนมาเรียนแค่วิชาเดียวเท่านั้น เขาเลยว่างนั่งอยู่กับสาวๆด้วยเช่นกัน
“พี่เนคะ ตอนบ่ายไม่มีเรียนเหรอ”มายด์ถามขึ้นเมื่อเห็นท่าทีไม่รีบเร่งของหนุ่มตากล้องรุ่นพี่
“อื้อ พี่ว่างน่ะ พวกเราก็ว่างกันใช่มั้ยเนี่ยถึงได้ยังนั่งเล่นกันอยู่อีก”
“ใช่ค่ะ พอดีเลย ถ้าพี่เนว่างแบบนี้งั้นเราไปนั่งเล่นกันที่ห้องชมรมมั้ยคะ”
“ใช่ๆ ห้องชมรมแอร์เย็นด้วย ดีกว่านั่งเล่นที่โรงอาหารเป็นไหนๆเลย ดูสินั่งแป๊บเดียวฝนก็เหนียวตัวแล้ว”สาวน้อยนิสัยอ่อนกว่าวัยเสริมให้กับเพื่อนสาวอย่างกระตือรือร้น ทำเอาเนเผลออมยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู
“อ่ะ ไปๆๆ ไปกันก็ได้เดี๋ยวพี่เปิดห้องให้”เนยอมโดยดี แม้ว่าในฐานะประธานชมรมถ่ายรูปคนใหม่มันจะดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่ที่จะพาคนนอกชมรมเข้าห้องชมรมมาในเวลาเรียนแบบนี้ มิหนำซ้ำยังเป็นผู้หญิงทั้งหมดด้วย แต่เมื่อคิดย้อนไปว่าสาวๆก็ต่างเป็นบ่อเงินบ่อทองให้ชมรมได้ถ่ายรูปขายอยู่เสมอๆก็ต้องยอมให้พวกเธอได้ใช้ห้องประหนึ่งสมาชิกในชมรมบ้าง
ห้องชมรมถ่ายรูปเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กก่ออิฐชั้นเดียวอยู่ภายในหมู่บ้านกิจกรรมของมหาลัย โดยตัวอาคารจะใหญ่กว่าชมรมอื่นพอสมควรเนื่องจากประธานรุ่นเก่าก่อนได้เรี่ยไรเงินสมาชิกต่อเติมอาคารขึ้นเพื่อให้มีพื้นที่เป็นห้องล้างรูปกับห้องเก็บฟีล์มในสมัยที่กล้องยังต้องใช้แต่แผ่นฟีล์มถ่ายรูปกันอยู่ แต่มาสมัยนี้ที่ทุกอย่างกลายเป็นข้อมูลดิจิตอลแล้ว ห้องเหล่านั้นจึงไม่ได้ใช้และถูกใช้ประโยชน์อื่นแทนไป ไม่เพียงเท่านั้น ห้องชมรมถ่ายภาพยังเป็นไม่กี่ชมรมด้วยที่ถูกต่อเติมห้องครัวและติดแอร์เข้าไปในช่วงยุครุ่งเรือง ซึ่งมันก็หลายสิบปีมาแล้วแต่ยังคงแผ่อานิสงมาถึงปัจจุบันให้สมาชิกได้ใช้กันอย่างมีความสุขถ้วนหน้าอีกด้วย
สี่สาวกับอีกหนึ่งหนุ่มเข้ามานั่งเล่นอยู่ในห้องชมรมกันเพื่อหลบไอร้อนจากบรรยากาศภายนอก แต่ยังไม่ทันได้พักให้หายเหนื่อยดี น้องมายด์ก็เอ่ยถามถึงเรื่องที่เขาพยายามปกปิดจากสาวๆคนอื่นในกลุ่มไว้ออกมา
“พี่เนคะ พี่ได้เอาน้ำสลัดมาด้วยมั้ย ไหนๆก็ว่างแล้ว มายด์อยากทำสลัดกินกับเพื่อนๆน่ะค่ะ”
“เอ่อ...เอามานะน้องมายด์...แต่ว่าพี่ไม่ได้ทำเผื่อเอาไว้เลยนะ”เนตอบกระอักกระอ่วน กลัวว่าหากเพื่อนๆมายด์ได้ลิ้มลองแล้วอาจความแตกได้เพราะเขาไม่มีทางรู้เลยว่าใครในกลุ่มอาจไม่ใช่สาวใสไร้เดียงสาและมีประสบการณ์มากพอจะรับรู้ได้ถึงส่วนผสมลับในน้ำสลัดของเขา
“อะไรคะเนี่ย นี่แอบทำอะไรอย่างนี้กันสองคนไม่บอกพวกเราเลยเหรอ พี่เนเนี่ยร้ายนะคะ”แพรวาถามขึ้นมาด้วยดวงตาเป็นประกาย ไม่คิดเลยว่าประธานชมรมหนุ่มที่ดูเงียบๆเรียบร้อยจะแอบจีบเพื่อนเธอด้วยอาหารอย่างลับๆแบบนี้
“เอาน่ะๆ นี่ก็จะมาแบ่งให้กินด้วยกันอยู่นี่ไง ไม่ได้เป็นความลงความลับอะไรสักหน่อย แบ่งๆกันกินนะแล้วก็เงียบไปเลย”มายด์รีบปรามไม่ให้เพื่อนสาวแซวเลยเถิดไปไกลกว่านี้ด้วยกลัวว่ารุ่นพี่ที่เธอนับถืออาจจะรู้สึกอึดอัดได้ แต่หารู้ไม่ว่าการที่เธอพูดแบบนี้มันทำให้เนแอบคิดไปไกลเป็นที่เรียบร้อย
...แบ่งกันกิน คำนี้สะดุดใจเขามากๆ ยิ่งได้เห็นสาวหน้าใสทั้งสี่จ้องมองมาก็แอบจินตนาการไปว่าหากเขาได้จับพวกเธอแต่ละคนนั่งคุกเข่าเปลือยกายต่อหน้าแล้วค่อยๆป้อนแท่งทวนเข้าปากแต่ละคนมันคงจะมีความสุขมากแน่ๆ โดยเฉพาะกับสาวห้าวอย่างเหนิงเขาจะป้อนเข้าไปสุดคอหอยให้ต้องร้องขอชีวิตก่อนจะเอามันออกมาพ่นเมือกคาวใส่หน้าสาวน้อยทั้งสี่ให้ได้แบ่งกันกินสดๆอย่างที่น้องมายด์พูดเลยทีเดียว
แค่คิดเท่านั้นเขาก็รู้สึกตึงแน่นเป้าตุงจนอึดอัดไปหมดแล้ว จากที่กลัวจะถูกจับได้จึงล้วงหยิบเอาขวดน้ำสลัดสูตรพิเศษในกระเป๋าเป้ที่เพิ่งกลั่นออกมาสดๆจากร่างกายเขามาให้มายด์จัดการต่อทันที
“ไปที่ครัวกันเถอะ น่าจะพอมีผักเหลืออยู่นะพี่ว่า”ชายหนุ่มบอกกับสาวๆด้วยความหวัง ตั้งตารอจะได้เห็นพวกเธอกินน้ำสลัดสูตรลับนี้เข้าไปด้วยตาตัวเองให้ได้
“นี่ พี่เน...ไปแอบจีบยัยมายด์แบบนี้ตอนไหนเนี่ย”แพรวาที่เดินรั้งท้ายกลุ่มแอบกระซิบถามพร้อมกับจับหนีบเอวเขาไว้ด้วยท่าทีข่มขู่ราวกับว่าหากเขาไม่ตอบเธอจะหยิกให้เนื้อเขียวยังไงอย่างนั้น
“เอ่อ...ก็...เพิ่งจะอาทิตย์เดียวเอง”เนเอ่ยปดออกไปเมื่อรู้ว่าเขาไม่มีทางเลี่ยงตอบคำถามได้
ในความเป็นจริงเขาเริ่มทำน้ำสลัดให้น้องมายด์กินตั้งแต่ต้นเทอม ซึ่งก็ผ่านมาได้สองเดือนแล้ว โดยครั้งแรกที่ได้ทำก็เพราะเขาบังเอิญไปช่วยเพื่อนที่ชมรมคหกรรมทำสลัดขายหาเงินรายได้เข้าชมรม พอดีกับที่น้องมายด์บังเอิญเดินผ่านมาเห็นเข้าถึงได้รู้ว่าตากล้องของเธอมีความสามารถที่แอบซ่อนไว้อยู่และดูจะประทับใจมากๆเมื่อได้ชิมในวันนั้น
หลังจากนั้นสาวน้อยตาโตก็มาแอบขอให้เขาทำน้ำสลัดให้โดยบอกว่าเธอต้องการจะกินเพื่อลดหุ่นที่เริ่มหนาหลังจากตามใจปากตัวเองมานาน แต่เพราะความอายกลัวว่าเพื่อนจะล้อว่าเธอกังวลเรื่องหุ่นจนต้องหันมากินสลัดเป็นจานหลักจึงไม่ได้บอกเพื่อนคนไหนและขอให้เนเงียบไว้ เขาจึงได้จับพลัดจับผลูมาเป็นพ่อครัวส่วนตัวให้น้องมายด์ไปด้วยในที่สุด และเพราะเรื่องนี้เป็นความลับระหว่างเขากับน้องมายด์เพียงสองคน ชายหนุ่มวัยกลัดมันจึงค่อยๆเปลี่ยนสูตรจากน้ำสลัดธรรมดา ค่อยๆเติมส่วนผสมลับจากร่างกายเขาลงไปทีละนิดกระทั่งตอนนี้มีน้ำสลัดจริงๆแค่ครึ่งขวดเท่านั้นแต่สาวน้อยผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ก็ยังจับไม่ได้ ซึ่งนั้นทำให้เนตื่นเต้นมากๆและหวังว่าสักวันเขาจะทำให้สาวน้อยในดวงใจกินน้ำสดๆแบบไม่มีส่วนผสมอื่นเจือปนให้ได้
“ร้ายนะคะ รอดสายตาแพรไปได้เนี่ย สงสัยต้องจับตามองพี่ให้ดีกว่าเดิมซะแล้ว”
“แพร...พี่ไม่ใช่นักโทษนะ”
“ฮ่ะๆๆ หยอกๆนะคะ เชียร์อยู่นะแต่อย่าไปขโมยใจใครพร่ำเพรื่อล่ะแค่นี้ก็มีคนอกหักไปคนนึงละ”
“ฮะ?”
“ไม่มีอะไรหรอก ไปเอาผักสิคะ”แพรวาตัดบททำเอาประธานชมรมหนุ่มอดงงไม่ได้ถึงคำพูดแฝงความหมายนี้
แต่คำพูดของเหยี่ยวข่าวสาวประจำมหาลัยก็ไม่อาจรบกวนใจเขาได้นานเมื่อต้องมาวุ่นวายกับเหล่าสาวๆอีกกับการเตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบอื่นๆเพื่อทำสลัด เขาต้องยอมรับเลยว่ามันตื่นเต้นมากๆที่ได้เห็นสาวๆกำลังสนุกสนานกับการทำสลัดผักอย่างมาก
แม่สาวห้าวจัดการฉีกผักออกเป็นฝอยๆในขณะที่ฝนเปิดขวดน้ำสลัดเขย่าเทลงไปอย่างแรงทำให้เมือกคาวกระฉอกเป็นวงกว้างเลอะสาวๆทั้งสี่ที่รุมล้อมกันอยู่
“อุ๊ย! ฝน อย่าเทสูงสิ มันกระเด็นนะ”มายด์อุทานก้มมองเสื้อนักศึกษาที่เปื้อนน้ำสลัดข้นพิเศษเป็นดวงๆโดยเฉพาะบริเวณเนินอกตรงตรามหาลัยซึ่งมันกระตุ้นให้ชายหนุ่มมองจ้องนิ่งราวกับโดนสะกด ทั้งยังกำมือแน่นอดทนกับความรุ่มร้อนวัยหนุ่มที่พุ่งแผดเผาร่างให้แก่นกายผงาดตึงเต็มที่จนรู้สึกได้เลยว่าซิปกางเกงแทบระเบิดออก
“ยัยฝน!!”เสียงน้องเหนิงดึงสติเขาให้ละสายตาจากหญิงสาวในดวงใจชั่วขณะ และมันก็เป็นภาพที่ทำให้เขายิ่งรู้สึกอึดอัดอยากระบายมากขึ้นอีกเมื่อได้เห็นเต็มสองตาเลยว่าตอนนี้มือขาวเนียนเรียวเล็กที่กำลังฉีกผักอยูนิ่งค้างเต็มไปด้วยเมือกขาวขุ่นที่กระเด็นขึ้นมา อีกทั้งบริเวณเนินอกยังมีเมือกก้อนใหญ่ติดซึมเข้าไปในเนื้อผ้าให้ได้เห็นบราเซียสีขาวสะอาดไร้เสื้อซับในบดบังทรวงอกน้อยๆนั่นอีก ที่สำคัญคือมีเมือกบางส่วนกระเด็นขึ้นไปถึงแก้มเนียนนุ่มของสาวหมวยตาดุด้วย
“ดูสิเลอะหมดเลย แกนี่นะ”เหนิงลุกขึ้นเอามือเปื้อนเมือกคาวกามมาป้ายแก้มทั้งสองข้างของฝนจนเลอะเทอะเป็นการแก้แค้น ทั้งยังทำท่าจะเช็ดป้ายไปบนเสื้อด้วย ฝนจึงต้องร้องด้วยความตกใจพลางวิ่งหนีอย่างสนุกสนาน
“อย่านะเหนิง ไม่เอานะ ฝนยอมแล้ว เดี๋ยวชุดเลอะหมด”น้องฝนร้องห้ามเพื่อนสาวพร้อมกับวิ่งมาหลบหลังเนเพื่อขอให้ช่วย “พี่เนช่วยฝนด้วยนะ เหนิงจะแกล้งฝน”
“เออ หลบได้หลบไปนะ อย่าให้เผลอนะแก”เหนิงเอ่ยอาฆาตพร้อมรอยยิ้มเย็นเยือกก่อนจะไปล้างมือ
“รอดแล้วๆ ขอบคุณค่ะพี่เน”ฝนยิ้มกว้างออกมาอย่างใสซื่อก่อนจะปาดนิ้วเอาเมือกคาวบนแก้มทั้งสองมาค่อยๆดูดต่อหน้าต่อตาชายหนุ่ม
ภาพริมฝีปากสีชมพูสดค่อยๆเม้มกลืนเมือกคาวจากปลายนิ้วเรียวเป็นอะไรที่สุดแสนจะรัญจวนใจหนุ่มโสดเอามากๆ ยิ่งได้เห็นใบหน้าไร้เดียงสาของหญิงสาวตรงหน้าก็ยิ่งพาให้เขาอยากกดไหล่เธอให้คุกเข่าลงแล้วป้อนเจ้ามังกรอันเขื่องเข้าไปในปากอุ่นให้เธอดูดและหลั่งรินเมือกคาวสดๆเข้าไปให้เด็กสาวได้ดูดกินจริงๆ
“แกนะแก หน้าชั้นเหม็นคาวหมดเลยดูสิ”น้องแพรวาบ่นขึ้นมาบ้างทำให้เนรีบเก็บอาการอยากกับแม่สาวน้อยไร้เดียงสาเอาไว้แล้วหยิบทิชชู่มายื่นให้สาวๆแทน
“อ่ะนี่ เช็ดหน่อยจะได้สะอาด”
“เหนอะหนะไปหมดเลย น้ำสลัดพี่เนี่ยข้นจังนะคะ”แพรวารับทิชชู่ไปซับเมือกคาวบนแก้มใสพลางบ่นเบาๆ
“ข้นสิ ถ้าไม่ข้นจะอร่อยเหรอ”เนตอบกลับ พยายามสงบจิตสงบใจไม่ให้เผลอทำอะไรประเจิดประเจ้อต่อหน้าเหยี่ยวข่าวสาวตาคมจนถูกจับได้
“นั่นสิ น้ำสลัดพี่ข้นมากเลย มายด์กินแล้วหนึบๆในปากอย่างกับผสมผงวุ้นเข้าไปด้วยเลยอ่ะ อร่อยมากนะคะ แต่เสียอย่างเดียว คาวไปหน่อย ถ้าไม่กินจนชินมายด์คงสำลักแน่”
“แต่ฝนว่ามันหอมนะ คาวๆหนึบๆเหมือนได้ใช้ฟันเคี้ยวแต่ก็เหลวเป็นน้ำข้น แล้วยังรสชาติเปรี้ยวๆขมๆนี่อีก แค่คิดว่าได้กินกับผักสลัดก็หิวแล้วเนี่ย พี่เนสอนสูตรหน่อยสิคะ ฝนอยากเอาไปทำกินอ่ะ”
“สูตรลับพี่ไม่บอกหรอก แต่ถ้าฝนชอบพี่ทำมาให้กินอีกก็ได้นะ”เนส่ายหน้ายิ้มๆให้สาวน้อยผู้ไร้เดียงสา สายตาของเขาจ้องมองสาวตัวเล็กหน้าหมวยโดยพยายามเก็บอาการเอาไว้อย่างสุดๆ แม้จะรู้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจแต่ใบหน้าอันแสนออดอ้อนกับคำพูดนี้ก็แทบจะทำให้เขาอยากให้เธอได้กินมันสดๆจากแท่งมันซะตรงนี้ ยิ่งได้จ้องมองผิวพรรณเนียนละเอียดนั้นกับเรือนร่างอวบอิ่มเต็มตึงใกล้ๆเขาก็ยิ่งอยากจะกินเธอ อยากสละความเป็นหนุ่มบริสุทธิ์ให้เธอไปเลยแบบที่หากต้องหมดทางได้รักกับน้องมายด์ก็ยินดี
หลังจากเตรียมอาหารกันสักพักสาวๆก็ล้อมวงเตรียมจะกินสลัดสูตรพิเศษกันโดยที่เนเพียงเอ่ยปฏิเสธแล้วมองอยู่ห่างๆพลางยิ้มกริ่ม
“ไม่รอกันเลยนะพวกแก”เหนิงบ่นเมื่อหันมาจากซิงค์ล้างมือแล้วเห็นว่าเพื่อนๆต่างตักสลัดเข้าปากกันไปเป็นที่เรียบร้อย สาวหมวยหน้านิ่งเดินเข้ามาหยิบช้อนตักกินทันทีคำนึงเพื่อไม่ให้ตัวเองเสียเปรียบ แต่เมื่อลิ้นเรียวเล็กสัมผัสกับน้ำสลัดรสเค็มคาวที่อาบเคลือบใบผักอยู่สีหน้าเรียบเฉยก็เปลี่ยนไปทันที
เหนิงชายตาขึ้นมองชายหนุ่มที่ยังคงยืนนิ่งอยู่มุมห้องด้วยสีหน้าถมึงทึงก่อนจะวางช้อนลง
“เป็นอะไรเหนิง ไม่ชอบเหรอ”ฝนถามเพื่อนสาวหน้านิ่งด้วยความสงสัย
“เปล่า แค่อยากลองชิมเฉยๆน่ะ เดี๋ยวออกไปซื้อน้ำหน่อยนะ พี่เนไปช่วยเหนิงถือหน่อยสิ”สาวห้าวยังคงมองตาหนุ่มรุ่นพี่ไม่กระพริบจนเขาอดรู้สึกร้อนๆหนาวๆไม่ได้ แต่ก็จำใจต้องตามออกจากห้องไปเพื่อไม่ให้ผิดสังเกตแม้หัวใจจะลงไปกองที่ตาตุ่มแล้วก็ตาม
เพียงแค่ทั้งสองก้าวขาพ้นประตูครัวมายังห้องกิจกรรมเท่านั้น เสียงกระซิบเบาๆจากคนหน้านิ่งก็ลอยมาเข้าหูพร้อมกับหยุดยืดกอดอกจ้องเขาราวกับผู้ใหญ่จับผิดเด็ก
“เอาน้ำอะไรมาให้เหนิงกิน”
“ก็...เหนิงกินสลัดไม่ใช่เหรอ ก็ต้องน้ำสลัดสิ”เนเอ่ยตะกุกตะกัก เริ่มรู้ตัวแล้วว่าเขาคงไม่รอด แต่ก็น่าแปลกที่สาวๆคนอื่นกินมันเข้าไปแล้วก็ยังจับไม่ได้ ขนาดน้องมายด์กินมันมาตลอดยังไม่ระแคะระคายแต่แค่เหนิงชิมคำเล็กๆคำเดียวกลับรู้ซะอย่างนั้นว่ามันคือน้ำอะไร
“ไปคุยกันในห้องเก็บฟีล์มหน่อยสิ”เหนิงเปิดประเด็นก่อนจะเดินลิ่วนำเข้าห้องเก็บฟีล์ม
ห้องเก็บฟีล์มที่เหลิงเข้าไปเป็นห้องประตูสองชั้น ทำเอาไว้เพื่อกันขโมยในสสมัยที่ฟีล์มยังราคาแพงและยังเป็นห้องเก็บเสียงเพราะฉนวนที่เอามาทำผนังห้องไม่ให้ฟีล์มได้รับผลกระทบจากอากาศภายนอกมันดูดเสียงได้ดี เรียกว่าตอนสร้างใหม่ๆชมรมหมดเงินไปเยอะทีเดียว แต่สมัยนี้เอาไว้แค่เก็บฟีล์มเก่าเท่านั้นจึงมีชั้นเหล็กวางเรียงกันพร้อมม้วนฟีล์มถูกเอาใส่กล่องจัดไว้เป็นหมวดหมู่อย่างดี และเมื่อโจทย์กับจำเลยเข้ามาในห้องเป็นที่เรียบร้อย สาวหน้านิ่งก็เริ่มต้นด้วยการผลักเขาไปพิงกับชั้นเก็บของทันที
“พี่เอาน้ำอะไรมาให้เหนิงกับเพื่อนกิน”
“ก็น้ำสลัดไงเหนิง”ชายหนุ่มยังยืนยันคำเดิมแม้จะเสียงอ่อนลงไปมากทั้งยังมีเหงื่อผุดซึมเต็มหน้าด้วยความหวาดหวั่น
“เหนิงไม่ชอบคนโกหกนะพี่เน แมนๆหน่อยสิยอมรับมาเถอะว่าเอาน้ำจากไอนี่มาให้เหนิงกับเพื่อนกิน”น้องเหนิงเดินเข้ามาตะปบเป้ากางเกงชายรุ่นพี่อย่างแรงพร้อมกับบีบขย้ำมันด้วยท่าทีข่มขู่โดยไม่มีความกระดากอายใดๆแสดงออกมาเลย ตรงกันข้าม ชายหนุ่มกลับหัวใจจะวายเมื่อรู้ชัดแล้วว่าหญิงสาวตรงหน้ารู้ความลับนี้แล้ว และชีวิตเขาคงจบลงแน่ๆหากเรื่องนี้ถึงหูอีกสามสาวที่กำลังกินสลัดกันอย่างเอร็ดอร่อยอยู่ในครัว
“โรคจิตว่ะ แข็งแบบนี้ตลอดเลยใช่มั้ยตอนที่พวกเรากินน้ำพี่น่ะ ชอบใช่ป่ะที่ได้เห็นคนสวยๆกินน้ำตัวเองน่ะ”
“พี่...”
“พูดมาสิ ไม่งั้นมันหักคามือเหนิงแน่”สาวหน้านิ่งขู่เสียงเย็นแต่กลับหยักยิ้มน้อยๆตรงมุมปากชวนให้เนยิ่งขนลุกซู่ด้วยความหวาดกลัว
เขาขายหน้าจนอยากจะตายไปให้พ้นๆจริงๆ เพราะตอนนี้แม้ว่าจะถูกข่มขู่และถูกจับเจ้ามังกรน้อยไว้เป็นตัวประกันแล้ว มันก็ยังคงแข็งสู้มือเด็กสาวโดยไม่หวาดกลัวเลยว่าชะตาชีวิตกำลังจะขาดรอมร่อ ยิ่งถูกจับปลดกางเกงสแล็คและโดนมือนุ่มๆล้วงควักออกมาจากกางเกงในเพื่อกำคอมันไว้ มันก็ยิ่งแข็งกระตุกสู้มือให้เขาต้องอับอายมากขึ้นอีก
“อันใหญ่เหมือนกันนี่ อันเท่าม้าที่เหนิงเลี้ยงไว้เลย อยากรู้จริงๆถ้าหักแล้วมันจะเล็กลงมั้ย”
“พ-พี่ขอโทษ พี่จะไม่ทำอะไรแบบนี้อีกแล้ว ปล่อยพี่เถอะนะพี่ยอมแล้ว พี่จะไม่ทำอีกแล้วสัญญาเลย จะให้ไปขอโทษเพื่อนๆเหนิงก็ได้”
“ไม่ต้องเล่นลิ้นหรอกเหนิงไม่เชื่อ เหนิงจะไม่ให้พี่มีโอกาสเอาน้ำนี่ให้เพื่อนเหนิงกินอีกแน่”
คำขู่พร้อมกับมือที่กระถอกเจ้ามังกรน้อยอย่างแรงทำเอาเนเกร็งไปทั้งตัว แม้จะรู้บั้นปลายชีวิตแล้วว่าคงไม่พ้นถูกหักทิ้งแน่แต่มันก็ยังคงแข็งกระตุกสู้มือสาวหมวยอยู่ตลอด เขาจึงเลือกจะหลับตาเม้มปากและหวังว่าการไม่ได้เห็นภาพเจ้ามังกรน้อยถูกหักคอมันจะช่วยให้เจ็บน้อยลง
ในตอนนั้นเองเขาก็รู้สึกได้ว่าเหนิงกระถอกลำแรงขึ้นจนมันแข็งพร้อมเต็มที่ มือนุ่มรวบจับที่โคนลำเอาไว้แน่นจนรู้สึกเจ็บก่อนจะเปลี่ยนเป็นความอุ่นวาบที่ค่อยๆคืบคลานเข้ามาจากปลายหัวบานทีละนิดและหยุดลงตรงกลางลำพอดิบพอดี
...โดนตัดแน่ๆแล้ว นั่นคือความคิดแรกของเน ยิ่งรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างแข็งๆสัมผัสกับผิวหนังตรงกลางลำกับความอุ่นซ่านก็เดาได้เลยว่ามันคงโดนของมีคมตัดพร้อมกับเลือดอุ่นๆที่ไหลออกมาจากปากแผลแน่ๆ แต่น่าแปลก แทนที่จะเจ็บ เขากลับยิ่งเสียวและสัมผัสได้ถึงแรงดูดอย่างมีจังหวะจะโคน มันเป็นแรงดูดที่สร้างความสุขให้เขาอย่างมาก ไม่เพียงเท่านั้นมือที่รวบกำโคนลำเอาไว้ให้ต้องอึดอัดก็ค่อยๆคลายออกเปลี่ยนเป็นกระถอกรูดชักช้าสลับเร็วให้เนต้องเสียวซ่านตัวงอ
ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมาช้าๆด้วยความแปลกใจ และภาพที่เห็นตรงหน้าคือสาวห้าวหน้านิ่งกำลังคุกเข่าอมเจ้ามังกรน้อยของเขาไว้เต็มปากและกำลังทำกับมันอย่างอ่อนโยนสุดๆผิดกับถ้อยคำที่เธอพูดขู่ลิบลับ
ยิ่งอมมัน รูดมัน เธอก็ยิ่งแสดงออกถึงความกระหายหิว ริมฝีปากเล็กๆปลิ้นเข้าปลิ้นออกตามจังหวะโยกหัวพร้อมกับใบหน้าที่แสดงออกถึงความพึงพอใจซึ่งมันเป็นครั้งแรกเลยที่เนได้เห็นสีหน้าอื่นนอกจากเรียบเฉยกับลุคทอมบอยห้าวๆ
“เหนิง อูยยยยย”เขาครางได้เท่านั้นก็ต้องตัวเกร็งกัดฟันแน่น เรื่องราวที่ไม่เคยได้พบเจอมาก่อนทำให้ชายหนุ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ต้องจับขาเหล็กของชั้นเก็บฟีล์มไว้แน่นก่อนจะลั่นกระสุนกาวออกมา
พลัก! พลัก! พลัก! พลัก!
มันเป็นความสุขสุดยอดที่หนุ่มโสดซิงๆอย่างเขาไม่เคยได้พบพาน ยิ่งมันได้มาจากหญิงสาวที่เขาไม่เคยคาดฝันว่าสามารถทำอะไรอย่างนี้ได้ก็ยิ่งน่าตื่นเต้นมากขึ้นอีก
เขาก้มมองสาวห้าวนิ่ง พยายามเก็บภาพความประทับใจเอาไว้ทุกๆวินาที ไม่ว่าเธอจะสำลักเมือกปริมาณมากในปากจนมันล้นเลอะริมฝีปากชมพูและใบหน้าแสนสวย หรือเมื่อเธอตั้งตัวได้แล้วอมกลับเข้ามาใหม่เพื่อดูดกลืนน้ำรักภายในลำกล้องเขาจนแห้งผาก ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างถูกบันทึกลงสู่สมองและเขาคงไม่มีทางลืมมันไปได้ตลอดชีวิต
แต่ความสุขก็อยู่ได้ไม่นานเพราะหลังจากกลืนกินทุกอย่างของเขาลงไปแล้ว สาวหน้านิ่งก็ลุกขึ้นมาพร้อมหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดคราบน้ำรักที่ติดยืดอยู่ตามคางและข้างแก้มออกพร้อมกับปรับอารมณ์ตัวเองให้นิ่งเฉยอีกครั้ง
“ถ้าไม่อยากให้เหนิงบอกมายด์ว่าพี่เอาน้ำอะไรให้กินก็เลิกทำแบบนี้ซะ เรื่องที่บอกว่าจะทำให้ฝนกินก็ด้วย แล้วต้องมาให้เหนิงเอามันออกทุกเช้าจนกว่ามันจะหมด ถ้ารู้ว่าเพื่อนเหนิงได้กินน้ำพี่อีกคราวนี้เหนิงจะไม่เอามันไว้จริงๆแน่”
“ด-ได้สิ”เขาตอบ ไม่รู้เลยว่าแม่สาวห้าวจะมาไม้ไหน แต่ก็ยอมรับเลยว่าบทลองโทษของเธอทำให้เขาประทับใจมากๆ ...มันราวกับว่าน้องเหนิงกำลังประกาศตัวเป็นเจ้าของมังกรน้อยตัวนี้อย่างเป็นทางการเลยก็ว่าได้
“ใส่กางเกงได้แล้ว อุจาดตาเป็นบ้า”สาวหมวยเหลือบมองท่อนลำกึ่งอ่อนกึ่งแข็งเหยียดๆ หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดคราบเมือกคาวบนใบหน้าออกให้กลับมาเกลี้ยงเกลาอีกครั้งก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ “รู้ไว้นะ ถ้าพี่ยุ่งกับเพื่อนในกลุ่มเหนิง พี่ตายแน่”สาวหมวยพูดทิ้งท้ายแล้วเดินจากไป ปล่อยให้ชายหนุ่มยืนนิ่ง ทำตัวไม่ถูกกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ยังไม่ทันที่เนจะรวบรวมสติได้ จู่ๆก็เกิดลมหมุนไหววูบขึ้นมาภายในห้อง มันพัดอย่างรุนแรงจนเนตกใจและหันมองตามทิษทางที่ลมพัดมา และภาพที่เห็นก็ทำให้เขาถึงกับต้องยืนขยี้ตา
ระหว่าชั้นเก็บฟีล์ม เกิดวัตถุทรงกลมเปล่งแสงขึ้น มันขยายตัวใหญ่ราวกับลูกฟุตบอลก่อนจะแตกออกอย่างรวดเร็วรุนแรงพร้อมกับมีงูสีดำตัวหนึ่งกระเด็นออกมา
...ช่วยข้า...ช่วยข้าด้วย...